Site Overlay

ทีมชาติสเปน กับสไตล์การเล่นฟุตบอล ที่เปลี่ยนไป ตามกาลเวลา

ทีมชาติสเปน กับสไตล์ฟุตบอล ที่พวกเรา มักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

ทีมชาติสเปน หากแฟนบอลคนไหน ยังจำกันได้ ใครที่เคยติดตามชม และเชียร์ทีมชาติสเปนมาตลอด ย้อนกลับไป เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว กับภาพจำในสูตรสำเร็จ ของรูปแบบการเล่นฟุตบอล รูปแบบหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกย่อง

ให้เป็นรูปแบบการเล่นฟุตบอล ที่ดีที่สุดในโลก หรือที่แฟนบอล รู้จักกันเป็นอย่างดีกับสไตล์ที่เรียกกันว่า ติกิ – ตากะ ระบบการเล่นที่ว่านี้ หากใครที่ติดตามฟุตบอลสเปน คงทราบกันดีว่า เป็นสไตล์การเล่น ของทีม บาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2009-2016

สมัยที่ เป๊ป กวาดิโอล่า นำระบบนี้มาติดตั้ง ให้กับทีม อราซูลกราน่า คือเป็นระบบที่เน้นการเคาะบอล ต่อบอล ด้วยความแม่นยำ ผสมผสานกับการเคลื่อนที่ของผู้เล่นในทีม อย่างเป็นระบบ จนกลายเป็นสูตรสำเร็จ ที่ส่งผลให้ บาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จ ทั้งในประเทศ และยุโรป

จนถึงระดับโลก ผลพวงจากสไตล์การเล่น อันเป็นเอกลักษณ์นี้ มันได้ต่อยอดมาถึงทีมชาติ สเปน ในยุคนั้น ที่ได้รับอิทธิพลจากการเล่นฟุตบอล ในสไตล์นี้ ด้วยเช่นกัน บทความกีฬาที่น่าสนใจ วันนี้ ขอนำเสนอเรื่องราว เกี่ยวกับทีมชาติสเปนกันครับ

จากสโมสร บาร์เซโลน่า จนถึงทีมชาติสเปนในยุคทอง

อย่างที่ทราบกันดี แกนหลักของทีมชาติสเปน จะประกอบไปด้วยผู้เล่นของทีม บาร์เซโลน่า ในยุคนั้น ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยจุดเริ่มต้นทองของทีมชาติสเปนยุคนั้น ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ อาราโกเนส ผู้ล่วงลับ ถือเป็นผู้ที่วางรากฐานให้กับฟุตบอลสเปน อย่างแท้จริง

ทีมชาติสเปน

กับการยึดแนวทางนี้ในการสร้างทีมเราจึงได้เริ่มเห็น รูปแบบการเล่นนี้ที่สเปน นำเสนอออกมาให้โลกได้รู้จัก ในศึกฟุตบอล ยูโร 2008 ซึ่ง ทีมชาติสเปน ผู้เล่น ในทีมชุดนั้น แกนหลักยังคงประกอบไปด้วยเหล่านักเตะจาก บาร์ซ่าเป็นแกน

อันเดรียส อิเนียสต้า,ชาบี เฮอนันเดส, เคร์ราร์ ปีเก้,การ์เลสปูโยล รวมถึงนักเตะจากสโมสรอื่นๆ ที่ดูแล้วว่า เคมีในการเล่นบอลดูจะเหมาะกับสไตล์นี้ อย่าง ดาบิด ซิลบา,เชส ฟราเบกาส,มารกอส เชนน่า รวมถึงศูนย์หน้าอย่าง ดาวิด บีย่า ในแนวรุก ซึ่งถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว

พื้นฐานการเล่นฟุตบอล ของนักเตะสเปน ส่วนใหญ่คือ จะถูกปลูกฝังให้เล่นฟุตบอลในรูปแบบนี้ ตั้งแต่ในระดับเยาวชน จนถึงระดับสโมสร มันจึงกลายเป็นรากฐานที่แน่นหนาส่งผลมาถึงทีมชาติ จนประกาศศักดาถึงความยอดเยี่ยมของฟุตบอลรูปแบบนี้ ด้วยตำแหน่งแชมป์

เริ่มตั้งแต่แชมป์แรกของ ทีมชาติสเปน ยูโร 2008,แชมป์โลก ทีมชาติสเปน 2010 และแชมป์ยูโร 2012 ถือเป็นแชมป์รายการระดับเมเจอร์ 3 รายการติดต่อกัน

ทีมชาติสเปน เมื่อระบบ ติกิ – ตาก้า เริ่มไม่ไหลลื่น จากจุดสูงสุด ดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดอีกครั้ง ของฟุตบอลสเปน

หลังทีมชาติสเปน ประสบความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ วิเซนเต้ เดลบอสเก้ ที่เข้ามารับตำแหน่ง ต่อจาก หลุยส์อาราโกเนส พร้อมกับต่อยอดสไตล์ ติกิ – ตาก้า ของทีมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จนถึงฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล จุดต่ำสุดของฟุตบอลสเปนก็มาเยือน

ทีมชาติสเปนในยุคนั้น ก็ยังคงยึดถือแนวทางนี้ ในการเล่นฟุตบอล แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ คู่ต่อสู้เริ่มที่จะจับทางได้ และรับมือกับพวกเขาได้ดีขึ้น จึงเป็นแนวทางให้กับหลายๆทีม ยามที่ต้องเจอกับทีมชาติสเปน ว่าต้องใช้วิธีการไหน ในการหยุดพวกเขา

เราเห็นได้ชัดจากฟุตบอลโลกครั้งนั้น คือเมื่อพวกเขาเจอคู่แข่งที่เน้นการตั้งรับลึก จนสเปนกลายเป็นทีม ที่เล่นบอลได้ไม่ถนัดนัก คือทำได้แค่การผ่านบอลไปมา แต่ไม่สามารถเจาะเข้าทำประตูได้ จนสุดท้าย ทีมชาติสเปนต้องกระเด็นตกรอบแรกไป

ซึ่งรายการใหญ่ๆ ต่อจากนั้นมา สเปนก้ไม่เคยไปถึงฝันอีกเลย ยูโร 2016 ตกรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก ก็ตกรอบ 16 ทีมเช่นกันหลังจากนั้น สเปน ทำการเปลี่ยนกุนซือเรื่อยมา หลังจากหมดยุคของ เดลบอสเก้

มาถึง ลูเฆน โลเปเตรกี,เฟอร์นานโด เอียร์โร่(ขัตตาทัพ ช่วงบอลโลก 2018) มาจนถึง กุนซือคนปัจจุบัน อย่างหลุย์ เอ็นริเก้

หลุย์ เอ็นริเก้ กับบทบาทนายใหญ่ ทัพกระทิงดุ ผู้มาพร้อม กับสไตล์การเล่นใหม่

เมื่อแนวทางเดิม ในการเล่นฟุตบอล ไม่ประสบผลสำเร็จอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงทีม ในหลายๆด้านจึงเกิดขึ้น โดยเฉพราะกับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่เข้ามารับตำแหน่ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทีม เพื่อสร้างสเปนยุคใหม่ขึ้นมา 

ทีมชาติสเปน

โดยเฉพราะตัวผู้เล่น ที่เอ็นริเก้เอง ยึดผู้เล่นสายเลือดใหม่ เป็นแกนหลัก โดยมีตัวเก๋า จากยุครุ่งเรือง หลงเหลืออยู่บ้าง อย่างในรายของ เซอจิโอ บุสเกตส์,หรือ เซซาร์ อัซปีกูเอต้า รวมถึง จอร์ดี้ อัลบา นอกจากนั้นแกนหลัก ถือเป็นชุดใหม่ ผสมผสานกับดาวรุ่งเป็นแกน 

เอ็นริเก้ เลือกใช้นักเตะส่วนใหญ่จากลีกในประเทศ จากหลายๆสโมสร ในทีมชุตนี้ อย่าง อูไน ซีมอน โกลทีมชาติสเปน จากแอตเธเลติก บิลเบา,โกเก้,มาร์โก ยอเรนเต้ จากแอต มาดริด,โฆเซ่ กาย่า จากบาเลนเซีย,เปดรี้ จากบาร์ซ่า,มิเกล โอยาซาบาล จากเรอัล โซเซียดัด

ผสมผสานกับสายเลือดใหม่ ส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่ขึ้นมาจาก ชุดเยาวชน ทีมชาติสเปน u21 ที่เล่นอยู่นอกประเทศ หลายๆราย อย่าง เฟอร์ราน ตอร์เรส,เอริก การ์เซีย,เอเมริก ลาปอร์ต จากแมน ซิตี้,รวมถึง ติอาโอ อันคันทรา จากลิเวอร์พูล และอีหลายๆราย

ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกอื่น อย่างในอิตาลี และฝรั่งเศ รวมถึงเยอรมันด้วยเช่นกันการทำงานของทีมชาติสเปนชุดนี้ โดยหลักแล้ว ก็ยังคงยึดถือแนวทางการเล่น ตามสไตล์ถนัดของตน คือใช้การต่อบอลเป็นหลักเช่นเคย

แต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การเน้นการเล่นเกมรับมากขึ้น ถ้าจะพูดถึง ที่มาที่ไปของต้นเหตุ ในการเปลี่ยนสไตล์การเล่นนี้ก็น่าจะสืบเนื่องมาจากปัจจุบัน ทีมในลาลีกาสเปนหลายทีมฤจะหันมาเน้นการเล่นเกมรับกันมากขึ้นกว่าช่วง

หลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะมีทีมต้นแบบ ที่สามารถทำให้เห็นมาแล้วว่า การเล่นเกมรับ ก็สามารถทำให้ทีมเป็นแชมป์ลีกได้ ทีมที่ว่าคือ สโมสร แอตเลติโก มาดริดนั้นเองโดยเอ็นริเก้ น่าจะมองว่า ถ้านำการเล่นทั้งสองสไตล์นี้ มาปรับใช้เข้าด้วยกัน ให้กับทีม

ทีมชาติสเปนของเขา น่าจะมีโอกาศ ทวงควาทยิ่งใหญ่กลับคืนมาได้เช่นกัน ซึ่งทีมสายเลือดใหม่ของเขาเอง เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดนในศึกยูโร 2020 ที่ผ่านมา ขุนผลทีมชาติสเปน สามารถทะลุถึง รอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะแพ้ให้กับ อิตาลี ในช่วงดวลจุดโทษ

รวมถึงกำลังทำผลงานได้ดี ในศึกยูฟ่า เนชั่นลีก ในขณะนี้ ซึ่งอนาคตต่อไป ต้องมาคอยติดตามกันว่า ทีมชาติสเปน 2022 สายเลือดใหม่ชุดนี้ จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน ซึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของทีมได้อย่างแท้จริง

นั้นก็คือ ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่การ์ตาร์ช่วงปลายปี มันคือบทพิสูจน์ว่าทีมที่หลุยส์ เอ็นริเก้ กำลังเพียรสร้างขึ้นมา ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาพร้อมแล้วหรือยัง ในการทวงความยิ่งใหญ่ของ ทีมชาติสเปน ตาราง คะแนน FIFA

กลับสู่อันดับต้นๆของโลก และการพา ให้ฟุตบอลสเปน กลับคืนสู่ ความยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

เรียบเรียงโดย Bang Ball